ล้างบางโปรแกรมที่ชอบแอบแฝงติดตั้งมาพร้อมกับโปรแกรมอื่นๆ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้อยากจะติดตั้ง ไม่ว่าจะเป็น Hao123 หรือ โปรแกรมในตระกูล Baidu ที่มีทั้ง Baidu PC Faster และ Baidu Antivirus เอาออกไปให้ไหม ไม่อยากให้มาติดตั้งอยู่ในเครื่อง
มีผู้อ่านหลายท่านที่สอบถามกันเข้ามา มากทีเดียวเกี่ยวกับตัวโปรแกรม Baidu ที่มีพฤติกรรมแปลกๆ ไม่รู้จะใช่ไวรัสหรือไม่ เพราะอยู่ดีๆ ก็โผล่เข้ามาอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเองได้ โดยที่ไม่ได้ติดตั้ง แถมยังมีป็อปอัพ หรือข้อความต่างๆ ขึ้นมาเตือนให้เราทำอะไรต่างๆ จนอดสงสัยไม่ได้ว่าโปรแกรมนี้กำลังทำอะไรกับเครื่องของเราบ้าง และมีปลอดภัยกับเครื่องของเรามากน้อยแค่ไหน
อันที่จริงแล้วตัวโปรแกรม Baidu ที่เห็นใช้กันอยู่เยอะๆ ในบ้านเรามีอยู่ 2 ตัวหลักๆ คือ Baidu PC Faster และ Baidu Antivirus (ยังมีอีกหลายๆ โปรแกรมแต่ไม่ค่อยได้รับ Spark Browser เป็นต้น) ซึ่งเป็นโปรแกรมฟรีแวร์สัญชาติจีนทั้งคู่ การทำงานของสองโปรแกรมนี้ดูได้จากชื่อรุ่นเลย ตัวไหนมีไว้ทำอะไรคงไม่ต้องเดา จากที่หลายคนสงสัย โปรแกรมนี้อยู่ดีๆ ก็โผล่เข้ามาในเครื่องของเราได้อย่างไรทั้งๆ ที่ ไม่ได้ติดตั้ง อันนี้ก็เป็นเพราะว่า ทาง Baidu มีการจับมือกับผู้ผลิตซอฟต์แวร์หลายๆ เจ้า โดยเฉพาะกับซอฟต์แวร์ประเภทที่เป็นฟรีแวร์ทั้งหลาย พ่วงหน้าติดตั้งของโปรแกรม Baidu เข้าไปอยู่ในขั้นตอนการติดตั้งด้วย ใครที่ชอบกด ”Next” ไปเลื่อยๆ เวลาติดตั้งโปรแกรมโดยที่ไม่ได้อ่าน มีโอกาสที่จะได้โปรแกรม Baidu เป็นของแถมอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมอื่นๆเช่น Hao123, v9, AVG Search, Conduit, Babylon, และอื่น ฯลฯ ที่มักจะติดเข้ามาในลักษณะเดียวกัน
คำถามต่อมาเป็นเรื่องการทำงานของ Baidu ที่บางคนก็ชื่นชอบมากทีเดียว ทำให้เครื่องทำงานรวดเร็วขึ้นเยอะ แต่บางคนก็บอกว่าทำให้เครื่องเพี้ยนไปเลยก็มี อันนี้ก็แล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน อาจจะโชคดีเจอโปรแกรมที่เหมาะกับอาการ ทำให้เครื่องทำงานดีขึ้น แต่บางคนก็อาจจะโชคร้ายเจอไม่ตรงอาการเสีย ก็อาจจะไม่ทำให้ดีขึ้น และบางครั้งยังทำให้เครื่องเราแย่ลงเสียอีก กรณีอย่างนี้ปล่อยไว้ในเครื่องของเราก็คงไม่ดีนัก ต้องจัดการถอนการติดตั้งมันออกไป แต่จะเข้าไปถอนการติดตั้งในหน้า “Programs and Features” ในหน้า “Control Panel” ก็ไม่ได้ เพราะยังมีบางส่วนที่ถอนออกไปไม่หมด มีบางส่วนที่ยังรันอยู่ในเครื่อง และมักจะสร้างปัญหาเช่นมีป็อปอัพเด้งขึ้นมาเป็นระยะๆ เป็นต้น จัดการถอนการติดตั้งแบบถอนรากถอนโคน ให้สิ้นซากจากเครื่องของเราไปเลยดีกว่า
ถอนรากถอนโคน Baidu
สำหรับโปรแกรมในตระกูล Baidu ทั้งในส่วนของ Baidu PC Faster และ Baidu Antivirus มีวิธีการถอนการติดตั้งเหมือนกัน ซึ่งอาจจะยากกว่าโปรแกรมอื่นๆ เล็กน้อย เพื่อไม่ให้มีโปรแกรมบางส่วนหลงเหลือทำงานอยู่ในเครื่อง โดยมีวิธีการดังนี้
ขั้นตอนที่1 เริ่มต้นหลังจากที่เราเปิดเครื่องขึ้นมา (ถ้าใครเปิดเครื่องไว้อยู่แล้วให้ทำการ รีสตาร์ทเครื่องก่อน) ให้กดปุ่ม “F8” บนคีย์บอร์ดย้ำๆ ไว้ จะมีเมนูโผล่ขึ้นมาตามภาพตัวอย่าง จากนั้นเลือกไปที่ “Safe Mode” ที่อยู่ด้านบนสุด จากนั้นรอจนบูทเข้าระบบปฏิบัติการวินโดว์ในแบบ “Safe Mode” จนเสร็จ
ขั้นตอนที่2 ขั้นตอนต่อไปให้ปิดการทำงานทุกด้านของตัวโปรแกรม ทั้งในส่วนของ บาร์มุมขวาล่าง และใน “Task Manager” โดยในส่วนของ บาร์ด้านขวา ให้เราคลิ๊กขวาที่ไอค่อของ Baidu จากนั้นเลือก “Exit” จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาถามอีกครั้งให้เลือก “Exit” แล้วกดปุ่ม “OK”
ขั้นตอนที่3 ส่วนใน “Task Manager” สามารถเรียกขึ้นมาโดยการ กดปุ่ม “Alt+Ctrl+Delete” หรือ “Alt+Shift+Esc” สำหรับวินโดว์ 7 และ 8 จะมีหน้าต่าง “Task Manager” แสดงขึ้นมา ให้เราหารายชื่อของโปรเซสต่างๆ ที่เป็นของ “Baidu” ให้เจอทั้งหมดแล้วทำการปิด โดยการคลิ๊กขวา แล้วเลือก “End ProcessTree” ทำให้ครบทั้งหมดทุกโปรเซสที่เป็นของ “Baidu”
ขั้นตอนที่4 จากนั้นจึงถอนการติดตั้งของโปรแกรมออกในหน้า “Programs and Features” ซึ่งจะอยู่ใน “Control Panel” เหมือนกับการถอนการติดตั้งโปรแกรมอื่นๆ ตามปกติทั่วๆ ไป โดยเลือกไปที่โปรแกรม “Baidu” ที่ต้องการถอนการติดตั้ง จากนั้นคลิ๊กขวา แล้วเลือก “Uninstall/Change”
ขั้นตอนที่5 ซึ่งเมื่อเลือกแล้วจะมีหน้าต่างถอนการติดตั้งโปรแกรมเปิดขึ้นมา ตามภาพตัวอย่าง ให้กดที่ปุ่ม “I want to uninstall PC Faster” ด้านซ้ายจะมีปุ่ม “uninstall” ปรากฏขึ้นทางด้านขวาเพื่อเริ่มถอนการติดตั้งโปรแกรม จากนั้นรอให้โปรแกรมทำการถอนการติดตั้งตามขั้นตอนปกติจนเสร็จสิ้นขั้นตอน
ขั้นตอนที่6 เมื่อโปรแกรมทำการถอนการติดตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ลองกลับไปตรวจสอบยังโฟลเดอร์ของโปรแกรมอีกครั้งมีการถอนการติดตั้งออกไปทั้งหมดแล้วหรือไม่ หากยังมีหลงเหลืออยู่ก็ให้สั่งลบไฟล์ ที่ค้างคาอยู่ออกไปให้หมด
ขั้นตอนที่7 นอกจากไฟล์ที่เหลืออยู่แล้ว ยังมีในส่วนของ “Registry” ที่มักจะยังคงค้างคาอยู่ในเครื่องของเราสามารถ ลบออกไปได้โดย กดปุ่ม “Start” มุมล่างซ้ายของหน้าจอ แล้วพิมพ์คำว่า “regedit” ลงไปในช่อง “Run” จะเป็นการเรียกหน้าสำหรับปรับแต่ง “Registry” ต่างๆ ในเครื่องออกมาแก้ไข
ขั้นตอนที่8 ซึ่งวิธีการแก้ไขในส่วนของ “Registry” ก็ไม่ยาก เริ่มจากลำดับแรก ให้ไปที่เมนู “Edit” จากแถบเมนูด้านบนซ้าย แล้วเลือกไปที่ “Find” เพื่อค้นหา “Registry” ของทาง “Baidu” ที่ได้สร้างเอาไว้
ขั้นตอนที่9 จากนั้นรอให้โปรแกรมทำการค้นหาซักครู่ หน้าต่างด้านซ้ายจะปรากฏ ที่อยู่ของโฟลเดอร์ “Registry” รวมทั้งรายละเอียดการตั้งค่าต่างๆ ใน “Registry” ที่ทาง “Baidu” ที่ได้สร้างเอาไว้ ที่ช่องทางด้านขวา ซึ่งเราไม่จำเป็นจะต้องไปแก้ไขค่าใดๆ เพียงแค่เราไปคลิ๊กขวาที่โฟลดอร์ของ “Baidu” ที่โปรแกรมตรวจพบ จากนั้นให้คลิ๊กขวา แล้วเลือก “Delete” เท่านี้ก็สะอาดหมดจด หายเกลี้ยงไม่มีอะไรหลงเหลือแล้ว
ขจัดเหา (Hao123)
ทิ้งท้ายให้อีกหนึ่งโปรแกรม ที่สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้ได้ไม่น้อย โปรแกรมนี้น่าจะเข้าข่ายมัลแวร์ชนิดหนึ่ง ที่เมื่อติดตั้งลงไปในเครื่อง โปรแกรมจะไปทำการแก้ตัวบราวเซอร์ ทุกตัวที่มีอยู่ในเครื่อง ให้ลิงค์ไปที่เว็บ “Hao123.com” เป็นหน้าแรกในการเปิด และไม่สามารถแก้ไขไปหน้าเว็บอื่นๆ ที่เราเคยตั้งได้ด้วย เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ใช้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ขั้นตอนที่1 สำหรับวิธีการการถอนการติดตั้งโปรแกรม Hao123 เริ่มต้นด้วยการเข้าไปที่หน้าถอนการติดตั้งโปรแกรม “Programs and Features” ซึ่งจะอยู่ใน “Control Panel” จากนั้นหาชื่อโปรแกรม “Hao123-Clien” ให้เจอจากนั้นตึงคลิ๊กขวา แล้วเลือก “uninstall” เพื่อถอนการติดตั้งโปรแกรม
ขั้นตอนที่2 จากนั้นจึงเข้าไปตั้งค่าหน้าแรกของเว็บบราวเซอร์ที่ต้องการจะเปิดใหม่ โดยในส่วนของเว็บบราวเซอร์ “Internet Explorer“ ให้กดปุ่มรูปฟันเฟืองมุมด้านบนขวา แล้วเลือกไปที่ “Internet Option”
ขั้นตอนที่3 จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้เช็ตค่า ให้ใส่เว็บไซต์ที่ต้องการจะตั้งเป็นหน้าแรก เมื่อเปิดเว็บในช่อง ในแอดเดส แทนที่เว็บของ “Hao123.com” เดิมเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนที่4 หากใครที่ใช้บราวเซอร์ “FireFox” ก็ตั้งค่าคล้ายๆ กันโดยเมื่อเราเปิดเว็บบราวเซอร์ “Firefox” ขึ้นมาให้กดปุ่ม “Alt” บนคีย์บอร์ดหนึ่งครั้งแถบเครื่องมือด้านบนที่ซ่อนไว้จะโผล่ขึ้นมา ให้เราเลือกไปที่ “Tools” เสร็จแล้วจะมีหน้าต่างขึ้นมาให้ตั้งค่าหน้าแรกที่ต้องการจะเปิดคล้ายๆ กับ บราวเซอร์ “Internet Explorer“ ส่วนบราวเซอร์เจ้าอื่นๆ คงต้องลองหาวิธีตั้งค่ากันดู
Credit: pctodaythailand.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น